แนะนำเคล็ดลับการออกกำลังกายอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ

ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายในสมัยปัจจุบัน จะเป็นที่นิยมและมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเรามากขนาดไหนก็ตาม แต่รู้หรือไม่ว่าการที่เราจะออกกำลังกายอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพนั้น

การออกกำลังกายให้ดีต่อสุขภาพ สิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามเลยก็คือการออกกำลังกายให้ถูกวิธีและเหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นเอง

เพราะคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมีพฤติกรรมการออกกำลังกายไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นทั้งช่วงเวลา สุขภาพร่างกาย รวมไปจนถึงเรื่องอื่นๆอีกด้วยจนอาจทำให้การออกกำลังกายนั้นไม่เกิดประโยชน์

แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นไม่ว่าเราออกกำลังกายในรูปแบบไหนก็ตามสามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีให้แก่เราได้แต่อาจจะไม่ได้มาก เท่ากับการออกกำลังกายให้เหมาะสมหรือถูกวิธี

ฉะนั้น สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นหันมาดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้แข็งแรง วันนี้เราก็จะมาแนะนำเคล็ดลับในการออกกำลังอย่างไร ให้ดีต่อสุขภาพร่างกายของเรา

รับรองได้เลยว่าหากเราทำเป็นประจำนั้นจะไม่เพียงแต่มีสุขภาพร่างกายที่ดียังอาจทำให้การออกกำลังกายนั้นเกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพต่อร่างกายของเรามากที่สุด จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

การตั้งเป้าหมายในการออกกำลังกาย สิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราจะออกกำลังกายอย่างไรให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดเลยก็คือ การที่เราตั้งเป้าหมายในการออกกำลังกาย เช่น เราอาจจะอยากลดน้ำหนักและเราควรที่จะตั้งเป้าหมายว่าเราควรที่จะลดน้ำหนักกี่กิโล หรืออาจจะเป็นการตั้งเป้าหมายในการออกกำลังกายกี่วันต่อสัปดาห์เพื่อให้การเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกายนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดนั่นเอง

การระบุกิจกรรมในการออกกำลังกาย รู้หรือไม่ว่าอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามหากอยากออกกำลังกายให้ได้ประโยชน์สูงสุด คือการระบุกิจกรรมในแต่ละวันที่เราจะออกกำลังกายว่าเราควรทำในรูปแบบไหนหรือ เราอยากจะออกกำลังกายแบบไหน เพราะการที่เราหมั่นสำรวจตนเองว่าอยากออกกำลังกายไปในทิศทางไหนจะทำให้เรารู้เป้าหมายได้อย่างชัดเจนว่า เราออกกำลังกายได้ถูกต้องและเหมาะสมมากแค่ไหน

การเขียนแผนการออกกำลังกาย การที่เราเขียนแผนในการออกกำลังกายของตัวเองออกมาจะทำให้เรามองเห็นว่าเราจะออกกำลังกายไปในทิศทางไหนหรือรูปแบบไหน หรือเราออกกำลังกายถูกต้องหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเวลา สถานที่ รวมไปถึงเรื่องอื่นๆเราก็ควรที่จะมีการวางแผนหรือเขียนแผนการในการออกกำลังกายไว้เพื่อให้การออกกำลังกายเกิดประโยชน์และง่ายนั่นเอง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  เครื่องช่วยฟัง

การเดินทางของ The Collective: สร้างแบรนด์อย่างมีเป้าหมาย

การเดินทางของ The Collective ค้นหาวิธีที่บริษัทโยเกิร์ต The Collective ปูทางในภาคผลิตภัณฑ์นมโดยให้ความสำคัญกับสุขภาพและความยั่งยืนในผลิตภัณฑ์ของตน The Collective ก่อตั้งขึ้นตามพันธกิจที่จะเขย่าโลกของนมและ ต่อสู้เพื่ออาหารที่ดีและนี่คือหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราทำ เราทำโยเกิร์ตแสนอร่อยที่ไม่เพียงแต่ดีต่อผู้คน ดีต่อสุขภาพ และอร่อย

แต่ยังดีต่อโลกด้วย การเดินทางของเราเริ่มต้นขึ้นเมื่อแรกเริ่มก่อตั้งบริษัทโดยเชฟผู้ประกอบการสองคนในนิวซีแลนด์ ตั้งแต่นั้นมา เราได้เห็นการเติบโตที่สำคัญและการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก

ในขณะที่เรามองหาผลิตภัณฑ์นมรสชาติดีให้กับผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมแห่งอนาคตในหมวดผลิตภัณฑ์นมและผลิตภัณฑ์ปราศจากนม หัวใจสำคัญของการบรรลุเป้าหมายนี้คือวัฒนธรรมที่ครอบคลุม ร่วมมือ ซื่อสัตย์ และคล่องตัวของเรา

เราตระหนักถึงความสำคัญของการให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมเป็นอันดับแรก และนี่เป็นจุดสนใจหลักตั้งแต่ฉันรับตำแหน่งหัวหน้าทีมในสหราชอาณาจักรและยุโรปในเดือนมีนาคม 2020 โดยเคยดำเนินธุรกิจในนิวซีแลนด์มาก่อน

กลายเป็น B Corp หลักชัยสำคัญประการหนึ่งของเราที่ The Collective คือการได้รับการรับรองจาก B Corp ในปี 2021 และเรามุ่งมั่นที่จะพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้นในสามประการของเรา ได้แก่ ผู้คน โลก และผลิตภัณฑ์

ทุกอย่างเริ่มต้นจากผู้บริโภคของเรา มรดกของเราเต็มไปด้วยจินตนาการและนวัตกรรม เชฟสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์รสชาติเยี่ยมและประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าตื่นเต้น

และเราภูมิใจที่ได้พัฒนาเพื่อเป็นผู้นำผู้บริโภคมากขึ้นเมื่อเราเติบโต เป็นการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนหนึ่งและเกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคของเรามากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา เช่นเดียวกับการระบุวิธีที่เราสามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ดีที่สุด

ผู้บริโภคที่รู้จักเรามีความภักดีอย่างมากและสนับสนุนการเดินทางของเรา แต่อัตราคอนเวอร์ชั่นสูงของผู้บริโภครายใหม่ที่ได้ยินเกี่ยวกับแบรนด์ของเราเป็นครั้งแรกและยังคงซื้อต่อไปหลังจากที่พวกเขาได้ลองโยเกิร์ตแสนอร่อยของเรานั้นน่าตื่นเต้นมาก ควบคู่ไปกับการมุ่งเน้นที่ผู้บริโภคของเราก็คือ เราเป็นธุรกิจที่มีจุดมุ่งหมาย และสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นในเส้นทาง B Corp ของเรา

มี B Corps น้อยกว่า 1,000 แห่งในสหราชอาณาจักร และจำนวนนี้แสดงให้เห็นว่ายากเพียงใดที่จะได้รับการรับรอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นธุรกิจนม นี่เป็นความสำเร็จที่สำคัญสำหรับเราและเป็นความสำเร็จที่ได้รับการยอมรับจากผู้เล่นชั้นนำอื่นๆ ในอุตสาหกรรม

การเดินทางครั้งนี้ยังฝังแน่นอยู่ในวัฒนธรรมของเราและช่วยกำหนดข้อความของนายจ้างให้กว้างขึ้น วิธีที่  เครื่องช่วยฟัง    เราทำธุรกิจและการปฏิบัติต่อพนักงานของเรา คนส่วนใหญ่ที่เราสัมภาษณ์สำหรับตำแหน่งใหม่กำลังค้นหาธุรกิจที่นำโดยวัตถุประสงค์และถูกดึงดูดมาหาเราเนื่องจากสถานะ B Corp ของเรา ทำให้เราแตกต่าง

จากเพื่อนร่วมงานหลายคน ช่วยให้เราสามารถรับสมัครผู้มีความสามารถที่ต้องการทำงานเพื่อเพิ่มขนาดในพื้นที่แบรนด์ผู้ท้าชิง SME และสำหรับแบรนด์ที่สร้างความสมดุลระหว่างผลกำไรกับผลกระทบต่อผู้คนและโลกของเรา เมื่อมองไปข้างหน้า เป้าหมายโดยรวมของเราคือการเป็นศูนย์คาร์บอนภายในปี 2568

ความสำเร็จครั้งสำคัญในปีที่แล้วด้วยการผลิตโยเกิร์ตนมที่ปล่อยคาร์บอนเป็นกลางเป็นครั้งแรกในสหราชอาณาจักร และการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์นมที่ปราศจากคาร์บอนที่เป็นกลาง และเราจะ แปลสิ่งนี้ในผลิตภัณฑ์และห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดของเราในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

เราทราบดีว่าการสนับสนุน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) และความยั่งยืนเป็นสิ่งที่สะท้อนใจลูกค้าและผู้บริโภคของเราอย่างแท้จริง และสิ่งนี้จะยังคงเป็นแนวทางที่สำคัญสำหรับแนวทางของเราในปีต่อๆ ไปและต่อๆ ไป เทรนด์นี้มีมาระยะหนึ่งแล้ว และเราคาดการณ์ว่าสิ่งนี้จะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้บริโภคในการตัดสินใจว่าจะซื้อสินค้าบางอย่างหรือไม่

วิธีหลีกเลี่ยงการเป็นหวัด

วิธีหลีกเลี่ยงการเป็นหวัด อุณหภูมิลดลงและกลางวันสั้นลง เมื่อเราเข้าสู่ฤดูหนาว เราทุกคนมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ แต่มีหลายอย่างที่คุณสามารถทำได้เพื่อเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของคุณเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงความทุกข์ยาก

ขณะที่คุณนั่งอยู่บนรถในตอนเช้า คุณอาจรับรู้ถึงเสียงไอและจามมากขึ้น ไม่มีทางหลีกเลี่ยง ฤดูหนาวกำลังมา

และฤดูหนาวก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นหวัดและไข้หวัดใหญ่ สาเหตุของการเพิ่มขึ้นของฤดูกาลนี้ไม่เคยได้รับการพิสูจน์อย่างแน่ชัด แต่มีวิธีพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มากมายในการปรับปรุงภูมิคุ้มกันของคุณ ซึ่งอาจช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงอาการเซื่องซึมที่น่ากลัวได้ ฉันจะแจ้งให้คุณทราบความลับ

สิ่งที่ควรรู้ว่าควรกินและดื่มอะไร เราทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วเกี่ยวกับการเพิ่มปริมาณวิตามินซีเพื่อเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของเรา แต่ความจริงแล้วมีอะไรมากกว่านั้นเพียงแค่แทะส้มหนึ่งหรือสองผล ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาศัยวิตามิน A, C และ E

ในการสร้างและซ่อมแซม การรับประทานผักและผลไม้สดให้หลากหลายควรให้ความสมดุลที่ดีแก่คุณ น้ำยังมีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำงานของภูมิคุ้มกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการขับล้างสารพิษ คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่อาหารสามารถช่วยสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงได้ที่นี่

การรักษาทัศนคติเชิงบวก (PMA) การมีทัศนคติที่ดีต่อจิตใจ (PMA) ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณมีหน้าที่การงานที่ดี (และในชีวิตทั่วไปเท่านั้น) นอกจากนี้ยังสามารถช่วยป้องกันความเจ็บป่วย นี่เป็นเพราะเราปล่อยฮอร์โมนที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับมุมมองของเรา

การคิดเชิงบวกจะปล่อยฮอร์โมนเสริมภูมิคุ้มกัน DHEA ในขณะที่การคิดเชิงลบจะปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอลที่กดภูมิคุ้มกัน ดังนั้นการคิดบวกจะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดี

การเปลี่ยนการออกกำลังกายของคุณให้ดีและมีประสิทธิภาพ การออกกำลังกายมีความสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของคุณ เพราะจะกระตุ้นการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นเซลล์ที่โจมตีแบคทีเรีย และยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเซลล์ภูมิคุ้มกันของคุณ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันของคุณ

การออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูงทุกครั้งอาจทำให้ระดับคอร์ติซอลและอะดรีนาลีนสูงขึ้น ซึ่ง  เครื่องช่วยฟัง    เป็นสัญญาณว่าคุณอยู่ภายใต้ความเครียดมากเกินไป สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอและการฟื้นตัวได้ไม่ดี พยายามเปลี่ยนกิจวัตรการออกกำลังกายของคุณด้วย

การผสมผสานระหว่างการออกกำลังกายแบบเข้มข้นสูงและปานกลาง คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่คาร์ดิโอในวันหนึ่ง ต้านทานอีกวันและยืดหยุ่นในวันรุ่งขึ้น นี่คือกิจวัตรการออกกำลังกาย 7 วันที่ยอดเยี่ยมสำหรับความฟิตและสุขภาพโดยรวมที่ดี

เครื่องดื่มที่ควรดื่มก่อนนอน

เชื่อว่าหลาย ๆ คนเมื่อถึงเวลาที่กำลังจะเข้านอน ก็มักที่จะหากิจกรรมมาทำกัน หรือบางคนอาจมองหาอาหารเพื่อเติมพลังใหร่างกาย และแน่นอนว่าช่วงเวลากลางคืน หรือก่อนเข้านอนนั้น เราก็มักที่จะรู้สึกหิว แต่กก็อาจทำให้หลาย ๆ คนมีความกังวลต่อปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาความอ้วน

เครื่องดื่มที่ควรดื่มก่อนนอน แต่รู้หรือไม่ว่าสมัยปัจจุบันนี้มีอาหารที่เราสามารถรับประทานได้ก่อนการเข้านอน หรือบางคนอาจจะเลือกเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

ซึ่งหากใครที่มีความกังวลใจว่าจะทำให้อ้วน ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะอาหาร หรือเครื่องดื่มในสมัยปัจจุบันนี้มีให้เราเลือกทานได้เยอะมาก ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเครื่องที่เราดื่มแล้ว ไม่ทำให้อ้วนอย่างแน่นอน แถมยังมีส่วนช่วยในการทำให้เรานั้นนอหลับได้สบายมากยิ่งขึ้น รับรองได้เลยว่าถ้าตตื่นมานั้นจะต้องมีระบบการขับถ่ายที่อย่างแน่นอน

ฉะนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำเครื่องดื่มที่ควรดื่มก่อนนอน ไม่ทำให้อ้วน ไม่กระทบต่อน้ำหนัก สามารถช่วยให้เราหลับได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ตื่นมารู้สึกสดชื่น และที่สำคัญดีต่อสุขภาพร่างกายของเราอีกด้วย จะมีเครื่องดื่มประเภทไหนกันบ้างไปดูกันเลย 

น้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว เครื่องดื่มชนิดนี้เหมาะมาก ๆ ที่ราควรดื่มก่อนการเข้านอน เพราะเป้นเครื่องดื่มที่ดีต่อระบบขับถ่ายของเราเป้นอย่างมาก ซึ่งสำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการขับถ่าย ท้องผูก ท้องอืดอยู่บ่อย ๆ การท่เราดื่มน้ำมะนาวผสมกับน้ำอุ่นเป็นประจำ จะยิ่งช่วยในหการกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายได้ โดยเฉพาะการดื่มช่วยก่อนเข้านอน ตื่นเช้ามาระบบขับถ่ายของเราก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยในการปรับระบบการขับถ่ายให้ทำงานได้อย่างมีแระสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักอีกด้วย 

นมคีเฟอร์ รู้หรือไม่ว่านมชนิดนี้อุดมไปด้วยโปรตีนที่สูงมาก ๆ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องดีต่อระบบขับถ่ายของเราอย่างแน่นอน ทั้งยังเป็นเครื่องที่เหมาะแก่การดื่มช่วงก่อนเข้านอนอีกด้วย เนื่องจากว่ามีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพร่างกาย ซึ่งสามารถช่วยในการปรับความสมดุลจุลินทรีย์ของลำไส้ได้  เครื่องช่วยฟัง     ทั้งยังส่งผลดีต่อระบบขับถ่าย สามารถช่วยลดอาการท้องผูก หรือท้องอืดได้อีกด้วย ดังนั้น สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย การดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้ก่อนเข้านอนรับรองได้ว่าดีต่อระบบขับถ่ายแน่นอน 

น้ำขิง หลายคนอาจจะทราบกันเป้นอย่างดีว่าน้ำขิงนั้นดีต่อสุขภาพร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแค่ช่วยแก้อาการเป็นหวัด อาการเจ็บคอ แต่น้ำขิงยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะแก่การดื่มก่อนนอนมาก ๆ นอกจากนี้น้ำขิงยังมีส่วนช่วยในการทำให้เรานอนหลับได้สบายมากขึ้น ช่วยย่อยอาหารได้ และที่สำคัญ ทำให้เราตื่นมาในตอนเช้าแล้วรู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

ตัวช่วยที่จะทำให้เพื่อนๆและสาวๆ ลดความอ้วน 

ลดความอ้วน  เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากลดความอ้วน มาทางนี้ได้เลย เพราะว่าการที่เราจะลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน เรามีตัวช่วยที่จะทำให้เพื่อนๆ และสาวๆ ลดความอ้วนได้ง่ายๆ ไม่ยากมาฝากกัน เราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรที่เป็นตัวช่วยให้เราบ้าง

ตื่นเช้ามา ดื่มน้ำเปล่าผสมน้ำมะนาวก่อนเลย

เพื่อนๆและสาวๆ คนไหนที่ตื่นเช้ามาไม่สดชื่น แนะนำว่าเพื่อนๆ และสาวๆ ลองหันมาดื่มน้ำอุ่น ผสมน้ำมะนาวก่อนเลยสิ เพราะว่าการที่เพื่อนๆ และสาวๆ ได้ดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาวก่อนจะช่วยทำให้เราสดชื่นและยังช่วยกระตุ้นระบบการทำวงานของระบบขับถ่ายได้ดีด้วยนะ เพื่อนๆ และสาวๆ ลองหันมาดื่มทุกเช้าดูสิ

กินอาหารเช้าช่วยได้ 

เพื่อนๆและสาวๆ ต้องเลือกกินอาหารที่ดีและการกินข้าวเช้านั้นช่วยได้ เพราะว่าการที่เพื่อนๆ และสาวๆ กินข้าวเช้าจะช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นและสมองก็พร้อมที่ทำงานได้อย่างเต็มที่ แนะนำว่าเพื่อนๆและสาวๆ กินอาหารเช้าโดยเน้นคาร์โบไฮเดรต จะได้มีพลังงานและไม่หิวจัดในมื้อถัดไปได้ดีอีกด้วยนะ

เลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์

เพื่อนๆและสาวๆ ควรจะเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์นะ เพราะว่าร่างกายจะอิ่มนานและได้สารอาหารครบถ้วน การเลือกกินที่ดี คือเลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน โปรตีนที่ดี และ ไขมันดี และที่สำคัญก็ต้องกินผักและผลไม้ด้วยนะ และการเลือกกิน ก็ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะด้วยนะ

ดื่มชาเขียวและกาแฟดำ ระหว่างวันช่วยได้

เพื่อนๆ และสาวๆ ที่ชอบหิวระหว่างวัน แนะนำเป็นอย่างยิ่งที่ควรจะหันมาดื่มชาเขียว ไม่ใส่นมและน้ำตาล และกาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล มันจะช่วยทำให้เพื่อนๆ และสาวๆ คลายความหิวได้ดี และยังมีคาเฟอีนที่ช่วยทำให้เราตื่นตัวได้ระหว่างวัน และยังช่วยเรื่องการกระตุ้นการเผาผลาญได้ดีอีกด้วยนะ 

กินเผ็ดช่วยได้นะ

เพื่อนๆและสาวๆ ที่ชอบของเผ็ด ๆแซ่บๆ ช่วยได้ เพราะว่าการที่เพื่อนๆและสาวๆ ที่กินเผ็ด  เครื่องช่วยฟัง    สามารถกระตุ้นระบบเผาผลาญและระบบขับถ่ายไปไหนตัวด้วยนะ ดังนั้นสาวๆ และเพื่อนๆ สายเผ็ดสบายใจได้เลย แต่อย่ากินหวาน เค็ม เยอะนะ เพราะอาหารแซ่บๆนอกจากเผ็ดแล้วยังชอบมีความเค็ม ความหวานตามมาด้วย

อย่าเครียด อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป

เพื่อนๆและสาวๆ ที่ลดความอ้วนหรือลดน้ำหนักอย่ากดดัน  หรือ เครียดมากเกินไปนะ เพราะว่าการที่เพื่อนๆ และสาวๆ เครียดไป จะทำให้ร่างกายของเราไม่ยอมเผาผลาญไขมันได้นะ 

อาการบ้านหมุนคืออะไร

หลายคนคงเคยได้ยินอาการบ้านหมุนมาบ้างแล้ว สงสัยไหมว่า อาการบ้านหมุนคืออะไร เวียนหัวบ่อย เมารถง่าย หูอื้อ รู้สึกโคลงเคลง ตาลายคล้ายบ้านหมุน ฟังดูเหมือนเป็นอาการทั่วไป เป็นๆหายๆจนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ใครจะรู้ว่าหากอาการเกิดขึ้นอย่างฉับพลันในเวลาที่คุณกำลังเดินทางขับรถ หรือทำงานกับเครื่องจักร อาจเป็นที่มาของอุบัติเหตุร้ายแรงได้

อาการเหล่านี้คืออะไร มาทำความรู้จักกัน อาการบ้านหมุน หรือที่เรียกกันว่า Vertigo เป็นอาการเวียนหัวอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน โดยคุณจะรู้สึกว่าสิ่งที่อยู่รอบๆตัวคุณกำลังหมุน หรือไม่ตัวคุณเองก็กำลังหมุน ทั้งๆที่จริงแล้วคุณอยู่กับที่ ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีความรู้สึกเหมือนจะเป็นลม หูอื้อ การได้ยินลดลงหรือมีเสียงในหูร่วมด้วยได้

วิธีการรักษาก็ขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งมาจากความผิดปกติที่หูชั้นใน ซึ่งมีหน้าที่ในการรักษาการทรงตัวของร่างกายคนเรา ซึ่งจะทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน และโรคเส้นประสาทในการทรงตัวอักเสบ เป็นต้น แล้วจะสังเกตได้อย่างไรว่าเป็นโรคเหล่านี้หรือไม่  

1.)โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน โรคนี้เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการบ้านหมุน ในหูชั้นในของคนเรามีหินปูนเกาะอยู่เมื่ออายุมากขึ้นหรือด้วยสาเหตุอื่น เช่น ศีรษะโดนกระแทก หินปูนก็อาจหลุดเคลื่อนเข้าไปในท่อน้ำในหูชั้นใน ทำให้น้ำในท่อนี้หมุนไม่สมดุล จึงเป็นที่มาของอาการบ้านหมุนสั้นๆแค่ไม่กี่วินาทีโดยเฉพาะขณะเปลี่ยนท่า โรคนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่พบบ่อยในผู้สูงอายุรักษาได้โดยการกายภาพ จัดท่าศีรษะโดยคุณหมอเพื่อให้หินปูนกลับเข้าที่ 

2.)โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน โรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดว่าเกิดจากอะไร และนอกจากอาการบ้านหมุนก็จะมีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น หูอื้อ มีเสียงหึ่งๆ การรักษามักทำแบบการประคับประคอง เช่นให้ยาแก้เวียนหัว และแนะนำให้เลี่ยงอาหารรสเค็ม ซึ่งอาจเป็นตัวกระตุ้นอาการให้กับมาอีก โรคนี้อาการจะกำเริบเป็นระยะๆ หากปล่อยไว้โดยไม่ดูแลก็อาจทำให้ประสิทธิภาพการได้ยินของคุณลดลงได้ 

3.)โรคเส้นประสาทการทรงตัวอักเสบ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสจากไข้หวัดแล้วลามไปจุกที่เส้นประสาทการทรงตัว คุณจะมีอาการบ้านหมุน เวียนหัว ชนิดลุกขึ้นไม่ได้เลย ทำได้แค่นอนนิ่งๆ ให้อาการดีขึ้นประมาณ 3-7 วัน แต่หลังจากนั้นอาจจะยังรู้สึกโคลงเคลงอยู่บ้าง ซึ่งอาจจะต้องทำกายภาพด้วยเครื่องฝึกการทรงตัว หรือ Posturography เพื่อปรับสมดุลและฟื้นฟูระบบประสาทการทรงตัว 

สาเหตุของโรคที่ทำให้เกิดอาการบ้านหมุนค่อนข้างซับซ้อน ฉะนั้นควรหมั่นสักเกตอาการให้ดีแล้วมาปรึกษาคุณหมอก่อนที่อาการจะหนักขึ้นเพราะอันตรายเกินขึ้นได้ทุกเมื่อโดยที่คุณไม่รู้ตัว 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  เครื่องช่วยฟัง

เด็กที่พิการทางการได้ยินก็มีความต้องการใช้เครื่องช่วยฟังเหมือนกัน

มีเด็กหลายคนที่มีปัญหาการไม่ได้ยินเสียงมาตั้งแต่เกิดและก็ยังมีอีกหลายคนที่มีปัญหาหลังจากที่คลอดออกมาแล้ว ซึ่งการมีปัญหาด้านการได้ยินมีหลายสาเหตุด้วยกัน สำหรับเด็กบางคนอาจเกิดจากโรคภัยไข้เจ็บและการเกิดอุบัติเหตุที่มีผลกระทบมาถึงหูส่งผลให้สมีปัญหาเกี่ยวกับการฟัง

สำหรับเด็กที่เกิดมาร่างกายปกติทุกอย่างตั้งแต่เกิดแล้วต่อมาต้องมามีปัญหาทางร่างกายส่งผลให้ไม่ได้ยินเสียง เชื่อว่าสภาพจิตใจของเด็กจะต้องแย่มากๆ เพราะหากเป็นผู้ใหญ่เองที่ต้องเจอปัญหาแบบเดียวกัน กว่าจะยอมรับสภาพของตัวเองได้ก็ยังต้องทำใจอยู่นาน ถึงแม้ผู้ใหญ่จะมีวุฒิภาวะมากกว่าเด็กก็ตาม ดังนั้น ไม่ต้องพูดถึงสภาพจิตใจของเด็กเลย ซึ่งการเกิดการเปลี่ยนแปลงกระทันต่อร่างกายจะส่งผลกระทบกับจิตใจของเด็กอย่างมาก

ดังนั้นหากปัญหาที่เกิดขึ้นคือการไม่ไดยินเสียง เครื่องช่วยฟังจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก ถ้าแม้ว่าจะเข้าจะต้องรับรู้ว่าต่อไปนี้จะต้องใช้เครื่องช่วยฟังในการรับฟังเสียง เขาจะไม่สามารถฟังเสียงจากหูของตัวเองแบบธรรมชาติได้แล้ว แต่เชื่อว่าเด็กจะมีการปรับสภาพจิตใจได้เร็วขึ้นกว่าเดิม

เพราะเด็กจะยังสามารถสื่อสารกับคนอื่นได้ตามปกติ ทำให้เขาไม่ได้รู้สึกแปลกแยกจากคนอื่น มีตัวอย่างของเด็กแถวบ้าน เป็นเด็กผู้หญิง เขามีปัญหาเรื่องการได้ยินตั้งแต่อายุ 1 ขวบแต่ช่วงแรกๆ พ่อแม่ ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องช่วยฟัง และคิดว่ามันแพงเกินไป จึงไม่ได้สนใจที่จะหาซื้อมาให้ลูกใช้งาน จนมีผลต่อการพัฒนาการของลูก เด็กเริ่มไม่ค่อยพูด และพูดได้ช้าลง ไม่ค่อยไปเข้าสังคม ไม่เล่นกับใคร

เพราะเด็กมีความรู้สึกถึงความแตกต่างๆ จนเด็กอายุ ได้ 5 ขวบ พ่อแม่จึงเริ่มหันมาศึกษาเกี่ยวกับเครื่องช่วยฟังว่ามีประโยชน์ยังไง ดียังไง แล้วจึงเริ่มได้ซื้อเครื่องช่วยฟังให้กับลูกใช้ แต่มันก็เกือบจะสายเกินไปเสียแล้ว เพราะลูกมีการหยุดพัฒนาการไปสักพักแล้วต้องมาเริ่มฟื้นฟูกันใหม่

ซึ่งเป็นการเสียเวลาสำหรับเด็กและพ่อแม่ ปัจจุบันเด็กคนดังกล่าวยังคงใช้เครื่องช่วยฟัง และเขาดูมีความสุขขึ้น เขาสามารถมีเพื่อนเล่นและยิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยกับคนอื่นมากขึ้น ถึงแม้ว่าการตอบโต้กับคนอื่นอาจจะไม่เร็วเท่าเพื่อน แต่การที่เขาได้ใช้เครื่องช่วยฟังก็ทำให้เขาได้ใช้ชีวิตในสังคมได้ง่ายขึ้น พ่อกับแม่ไม่ต้องคอยมานั่งห่วงกังวลในตัวลูกของเขามากเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แค่มี เครื่องช่วยฟัง เข้าใช้งานงานชีวิตก็ง่ายขึ้นทั้งลูกและพ่อแม่