โรคเอดส์ (AIDS) หรือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HIV (Human Immunodeficiency Virus)

 

โรคเอดส์ (AIDS) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HIV (Human Immunodeficiency Virus) ซึ่งส่งผลให้ร่างกายของบุคคลที่ติดเชื้อมีระบบภูมิคุ้มกันลดลงเรื่อย ๆ จนถึงขั้นเป็นโรคเอดส์เอง อาการของโรคเอดส์สามารถแบ่งออกเป็นสามช่วงหลัก ๆ ได้ดังนี้

1.ช่วงช่องโหว่ (Acute HIV infection): ช่วงนี้มักเกิดขึ้นในระยะเริ่มต้นหลังจากติดเชื้อไวรัส HIV ใหม่ เป็นช่วงที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเริ่มต้านไวรัส HIV อาการที่พบมักเป็นไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดคอ ปวดข้อ ความอ่อนเพลีย ผื่นบนผิวหนัง และอาการอื่น ๆ ซึ่งอาจจะมองข้ามไปได้ เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจเป็นเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เชื้อ HIV

2.ช่วงปรับตัว (Asymptomatic HIV infection): หลังจากช่วงช่องโหว่ผ่านไประยะเวลาประมาณ 2 ถึง 15 ปี บางคนอาจไม่มีอาการที่น่าสังเกตเป็นอย่างชัดเจน (asymptomatic) แต่ระบบภูมิคุ้มกันของตนอาจเริ่มลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งอาจทำให้มีอาการเช่น มีไข้เล็กน้อย หมองเมื่อยง่าย หรือมีปัญหาของระบบภูมิคุ้มกันอื่น ๆ

3.ช่วงโรคเอดส์ (Symptomatic HIV infection/AIDS): หลังจากช่วงปรับตัวผ่านไประยะเวลา 10 ถึง 15 ปีหรืออาจจะเร็วกว่านั้น ผู้ป่วยโรคเอดส์จะมีอาการที่มักมีความรุนแรงมากขึ้น เช่น ปวดท้อง น้ำหนักลดลงอย่างรุนแรง ปวดที่กล้ามเนื้อหรือข้อ มีโรคต่าง ๆ อาทิ เบาหวาน วัณโรค และมะเร็ง เดลย์โรคเอดส์จะมีสาเหตุจากการติดเชื้อจากเชื้ออื่น ๆ ซึ่งร่างกายปกติจะสามารถต้านเชื้อเหล่านี้ได้ แต่ในผู้ที่ติดเชื้อไวรัส HIV ร่างกายจะมีความยากที่จะต้านการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาการของโรคเอดส์จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยมีความหลากหลายทั้งในอาการและความรุนแรงของโรค และสำหรับบางคนอาจไม่มีอาการเลยในระยะแรก จึงสำคัญที่จะได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคที่รวดเร็วเมื่อสงสัยว่าอาจมีการติดเชื้อ HIV ในระบบของตน

การป้องกันโรคเอดส์มีหลายวิธีที่สามารถปฏิบัติได้เช่นเดียวกับการป้องกันการติดเชื้ออื่น ๆ และนี่คือบางวิธีที่สำคัญ

1.การใช้ถุงยางอนามัย (condoms): การใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศอื่น ๆ ช่วยลดความเสี่ยงอย่างมาก

2.การใช้เข็มที่ปลอดภัย: ในกรณีที่ต้องใช้สารเสพติดหรือฉีดยา ควรใช้เข็มที่ไม่ได้ใช้ซ้ำและปลอดภัย

3.การตรวจสอบสถานะเชื้อโรค: การทำการตรวจเชื้อเอดส์เป็นประจำ โดยเฉพาะหลังจากมีกิจกรรมที่เสี่ยง เพื่อทราบสถานะของตนเองและรับการรักษาตามคำแนะนำเพื่อลดความเสี่ยง

4.การให้ยารักษากำเนิด: สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น คู่รักระดับสูงที่มีหนึ่งในฝ่ายติดเชื้อ หรือแม่ติดเชื้อที่ตั้งครรภ์ การให้ยากำเนิด (Pre-exposure prophylaxis: PrEP) สามารถลดความเสี่ยงได้

5.การให้ยารักษาหลังเผ่าพันธุ์ (Post-exposure prophylaxis: PEP): ในกรณีที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV ในระยะเวลาที่สั้น ๆ (เช่น หลังถูกทำร้ายทางเพศ) การให้ยา PEP ในช่วงเวลาหลังเหตุการณ์นั้นสามารถลดความเสี่ยงได้

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  คาสิโน ญาจาง

อาการร้อนใน เกิดจากสาเหตุอะไร

“อาการร้อนใน” หรือ “ไข้” เป็นสภาวะที่ร่างกายเพิ่งสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับสิ่งที่เข้ามาทำร้าย ส่วนใหญ่เกิดจากการต่อสู้กับเชื้อโรค อาจเป็นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือโรคอื่นๆ ที่เข้ามาทำลายเซลล์ในร่างกาย

เมื่อร่างกายรู้สึกตัวมีสิ่งที่ต้องสู้ปรากฏขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะทำงานในการต่อสู้ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการไข้ขึ้นมา เพื่อใช้สร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมสำหรับเชื้อโรคและช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่สามารถทำให้เกิดอาการร้อนในได้ เช่น การติดเชื้อและการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะ เช่น การติดเชื้อทางเดินหายใจ ติดเชื้อทางการเมือง การติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นต้น

 อย่างไรก็ตาม การร้อนในหรือไข้เป็นสัญญาณที่มีความสำคัญต่อการป้องกันและรักษาโรค หากมีอาการร้อนใน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม

 

การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับอาการร้อนในหรือไข้มีหลายขั้นตอนตามความรุนแรงของสถานการณ์ ดังนี้

1.พักผ่อนและดื่มน้ำเพียงพอ: ให้ร่างกายมีเวลาพักผ่อนเพียงพอ และรับประทานน้ำเพียงพอเพื่อประสิทธิภาพในการส่งออกสารพิษและสารต่างๆที่เกิดจากการต่อสู้กับเชื้อโรค

2.รับประทานยาลดไข้: หากไข้สูงหรือมีอาการไม่สบาย คุณอาจต้องรับประทานยาลดไข้ เช่น อะเซตามิโฟเอ็น (acetaminophen) หรืออีบู๊รูเฟ็น (ibuprofen) โดยแนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านการแพทย์

3.ปรึกษาแพทย์: หากอาการร้อนในไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรง ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาเพิ่มเติม แพทย์อาจต้องการตรวจสุขภาพเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุของอาการ

4.รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์: รับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน เช่น ผลไม้ และผัก เพื่อช่วยเสริมสร้างร่างกายให้สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น

5.การดูแลตัวเอง: รักษาความสะอาดของร่างกายและสิ่งแวดล้อมรอบข้าง เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

6.การรักษาโรค: หากการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับไข้เกิดจากการติดเชื้อ จะต้องใช้การรักษาที่เหมาะสมตามสาเหตุของโรคนั้นๆ อาจเป็นการใช้ยาปฏิชีวนะ หรือยาแก้โรคที่แพทย์รับรอง

สาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการร้อนใน ได้แก่

อาการร้อนในหรือไข้สามารถเกิดขึ้นจากสาเหตุหลายประการ โดยสาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาการร้อนในได้แก่

1.การติดเชื้อ: เช่น ไข้หวัด, ไข้หวัดใหญ่, ไข้เลือดออก เป็นต้น

2.การติดเชื้อทางเดินหายใจ: เช่น โรคไข้หวัดใหญ่, โรคไข้เลือดออก เป็นต้น

3.การติดเชื้อทางเดินอาหาร: เช่น โรคเฉี่ยวพลัน, โรคท้องเดิน และโรคอื่นๆ

4.การติดเชื้อในกระแสเลือด: เช่น ไข้เลือดออก เป็นต้น

5.การติดเชื้อทางการเมือง: เช่น การติดเชื้อทางกรดเอสไตรก์, การติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นต้น

6.โรคระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย: เช่น ไข้เรื้อรัง เป็นต้น

7.การแพ้ต่ออาหารหรือสาร: บางครั้งการตอบสนองของร่างกายต่ออาหารหรือสารสามารถทำให้เกิดไข้ได้

8.สารพิษหรือสิ่งก่อภูมิแพ้: การสัมผัสกับสารพิษหรือสิ่งก่อภูมิแพ้อาจทำให้เกิดอาการไข้

9.อุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บ: บาดเจ็บหรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอาจทำให้เกิดอาการไข้

10.โรคระบบระบาย: เช่น โรคมะเร็ง สามารถทำให้เกิดอาการไข้ได้

 นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการร้อนในได้ การระบุสาเหตุของอาการร้อนในนั้นจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสม

 

สนับสนุนโดย    ทัวร์คาสิโนเวียดนาม

เทคนิคแนวทางไล่หนู ที่ไม่จำเป็นต้องฆ่าให้ตาย

เทคนิคแนวทางไล่หนู ที่ผู้หญิงขี้ใจอ่อนก็ทำเป็น ในบ้านของพวกเรานั้น บางทีอาจจะพบว่ามีสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อาศัยอยู่ด้วย อย่างเช่น หนู ถือเป็นตัวร้ายที่กำจัดยากกัดกินของในบ้าน

เทคนิคแนวทางไล่หนู หลายบ้านประสบเจอกับปัญหาเกี่ยวกับหนูในบ้านที่คือปัญหาเรื้อรังมานาน ต้องการกำจัดซะให้หมดสิ้นสักครั้ง

แม้กระนั้นการฆ่าหนูตาดำดำมันก็ดันคือเรื่องอะไรที่อำมหิตมากมายสำหรับผู้หญิงแม่บ้านขี้ใจอ่อน วันนี้พวกเราเลยเอากลเม็ดแนวทางไล่หนูโดยไม่ต้องฆ่าให้ตายมาฝากสหาย ๆ กัน จะมีแนวทางไหนบ้าง ไปดูกันเลย

– น้ำมันก๊าด เพราะว่าน้ำมันก๊าดนั้นมีกลิ่นแรงที่ร้ายแรง ขนาดคนอย่างพวกเราสูดกลิ่นมากมาย ๆ ยังกำเนิดอาการหน้ามืดเลย ด้วยเหตุนั้นการันตีว่าเจ้าหนูตัวเล็ก ๆ จำเป็นจะต้องเข็ดกระทั่งไม่กล้ากลับเข้ามาในบ้านของพวกเราอีกแน่ ๆ แม้กระนั้นเนื่องมาจากเป็นสารเคมีที่ไวไฟก็เลยต้องระวังอย่างใหญ่โตสำหรับในการใช้กันด้วย

– ลูกเหม็น บางทีก็อาจจะมิได้มีกลิ่นแรงร้ายแรงพอ ๆ กับน้ำมันก๊าด แม้กระนั้นถ้าหากนำไปวางไว้ภายในจุดที่รู้สึกว่าเจ้าหนูเหล่านี้จะวนเวียนมาบ่อย ๆดังเช่นว่า ถังใส่ขยะ ฝ้าเพดาน หรือแม้กระทั้งมุมอับในห้องครัว ก็จะช่วยไล่หนูให้ไม่ได้อยากเข้ามาใกล้บ้านพวกเราอีก แถมยังไม่อันตรายเท่าน้ำมันก๊าดด้วย

– แสงไฟ สัตว์นี้เป็นพวกที่เกลียดชังความสว่าง ด้วยเหตุนั้น หากคุณเปิดไฟแน่นอนว่ามันจะช่วยทำให้หนูกำเนิดความหวาดกลัว ไม่กล้าออกมาคุ้ยเศษอาหารอีก แต่ว่าต้องระมัดระวังเรื่องค่าไฟฟ้าที่จะตามมาด้วย

– พลุ นอกเหนือจากแสงไฟที่หนูรังเกียจแล้ว เสียงดังก็ยังส่งผลให้มันรังเกียจด้วย เพราะว่าหนูเป็นสัตว์ที่ขี้ตกใจพอเหมาะ ถ้าต้องการไล่ให้หนูเผ่นกระเจอะกระเจิงล่ะก็ ทดลองซื้อดอกไม้ไฟมาจุดไล่ แต่ว่าต้องระมัดระวังเสียงไปก่อกวนข้างบ้านด้วยนะ อาจมีการแจ้งเพื่อนบ้านสักหน่อยว่าพวกเราจะทำจุดพลุเผื่อไล่หนูนะ

– แมว บ้านไหนที่เลี้ยงแมวมักจะไม่ค่อยมีหนู เพราะพวกมันไม่ถูกกัน ด้วยเหตุนั้นหาแมวมาเลี้ยงสักตัวก็จะช่วยไล่หนูให้พวกเราได้โดยที่พวกเราไม่ต้องทำอะไรเลย

– เม็ดไล่หนู เป็นอีกแนวทางที่ง่ายแสนง่าย หาซื้อเม็ดไล่หนูจากร้านขายของทั่ว ๆ ไป จะมีลักษณะเป็นเม็ด ๆ สีดำ กลิ่นแรง วางไว้ตามจุดที่เจ้าหนูวนเวียนเสมอ ๆ จะก่อให้เจ้าหนูทนกลิ่นแรงไม่ไหวและก็หนีหายไปเอง

– สมุนไพรไล่หนู จะมาในลักษณะของสินค้าน้ำยาไล่หนูที่หาซื้อได้ตามร้านค้าสบายซื้อ โดยน้ำยาตัวนี้จะสกัดมากมายจากสมุนไพรไทยที่มีกลิ่นแรงเช่น ใบกะเพรา สะระแหน่ หรือใบมะกรูด ฯลฯ ซึ่งปลอดภัยต้อผู้ใช้ด้วย

– ปลูกต้นยี่โถ เพราะมีกลิ่นแรงที่เจ้าหนูก็เกลียดแบบเดียวกัน หาปลูกติดบ้านไว้ใช้ไล่หนูได้ โดยวิธีการเด็ดใบไปวางตามจุดที่หนูมาชุมนุมกัน ยืนยันว่าฉุนจนถึงจำต้องหนีไปอยู่ที่อื่น ๆ กันอย่างยิ่งจริง ๆ

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังแบบไหนดี

ประโยชน์ของน้ำยาล้างจาน

 คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำยาล้างจานสามารถที่จะทำประโยชน์ได้มากกว่าแค่น้ำมาล้างจาน โดยมีคนนำมาใช้ซึ่งพวกเขาบอกว่ามันปลอดภัยไม่ต้องกังวลแต่อย่างใดเลย น้ำยาล้างจานสามารถนำมาดัดแปลงให้ใช้อะไรได้มากมาย

ซึ่งไอเดียนี้เหล่าแม่บ้านส่วนใหญ่ทราบกันดี ถ้าหากเรานำไปใช้อย่างถูกวิธี ท่านสามารถที่จะใช้ได้หลากหลายแบบเลย เรามาดูกันดีกว่าว่าน้ำยาหลังจากนั้นสามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง

 

1.สามารถขจัดสิ่งสกปรกหรือคราบมันต่างๆที่อยู่บนเฟอร์นิเจอร์ของเราได้

เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าคุณสมบัติของน้ำยาล้างจานนั้นมีเพื่อที่จะทำความสะอาดหรือขจัดคาบมันต่างๆนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องสงสัยกันเลยว่าการที่เราจะหยิบน้ำยาล้างจานนั้นมาใช้ ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ของเราได้อย่างสะอาดหมดจด

 

ทั้งน้ำยาล้างจานนี้อย่างปลอดภัยเพราะไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายใดๆแก่สิ่งแวดล้อม ดังนั้นมันจึงสามารถขจัดคาบสกปรกที่อยู่บนเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างไรที่ติ

 วิธีทำความสะอาด

เพียงแค่คุณนำน้ำยาล้างจานมาผสมเข้ากับน้ำอุ่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนอกจากนั้นแล้วยังใช้ผ้าที่สะอาดทำความสะอาดชุบน้ำและนำไปเช็คกับสิ่งที่สกปรกบนเฟอร์นิเจอร์ของคุณเพียงเท่านี้ค่าฝุ่นหรือคราบมันต่างๆ ก็หลุดออกสะอาดทันที 

2.ช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรกบนเครื่องประดับของคุณให้เครื่องประดับกลับมาใส

หลายคนรู้และหลายคนก็ยังไม่รู้เกี่ยวกับน้ำยาล้างจานที่สามารถนำไปทำความสะอาดให้กับเครื่องประดับของคุณได้โดยมันจะไม่ส่งผลกระทบกับเครื่องประดับของคุณอย่างแน่นอนและนอกจากนั้นยังไม่ทำให้ระคายเคืองกับผิวหนังของคุณอีกด้วยเรียกได้ว่าคืนความปิ๊งประกายให้กับเครื่องประดับของคุณให้กลับมาเหมือนใหม่

  วิธีทำความสะอาด

สำหรับวิธีทำความสะอาดกับเครื่องประดับที่สวยหรูของคุณนั้นโดยคุณต้องนำน้ำยาล้างจานในอัตราแค่หนึ่งส่วนเท่านั้นมาผสมกับน้ำและจากนั้นใช้เครื่องประดับของคุณแช่ลงไป หรือแกว่งไปมาเพียงเท่านี้ก็เสร็จสรรพนำมาเช็ดให้แห้ง แล้วคุณจะได้เครื่องประดับใหม่อีกครั้ง

 3.ทำความสะอาดพรมได้

สำหรับผมที่ปูไว้กับพื้น มักจะมีคราบสกปรกติดอยู่ฝังแน่นดังนั้นการทำความสะอาดพรมให้กลับมาใหม่อีกครั้งไม่ใช่วิถียากอีกต่อไปและนอกจากนั้นการใช้น้ำยาล้างจานในการทำความสะอาดพรมไม่ก่อให้เกิด สารระคายเคืองใดๆ ต่อคนและสัตว์เลี้ยงของคุณอย่างแน่นอน

 วิธีทำความสะอาด

ใส่น้ำยาล้างจานของคุณผสมเข้ากับน้ำอุ่นจากนั้นใช้พรมของคุณที่ต้องการซัก แช่ในน้ำไว้สักครู่จากนั้นนำมาขยี้หรือถ้าเป็นพรมพี่ไม่สามารถโดนน้ำได้ให้นำน้ำยาผสมน้ำอุ่นใส่กระบอกฉีดและนำไปฉีดตรงบริเวณที่เปื้อนจากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดอีกครั้งเพียงเท่านี้พรมของคุณก็จะกลับมาสะอาดเหมือนเดิม

 

สนับสนุนโดย    โรงแรม Hoiana Casino

แนะนำ 3 แนวทางการใช้ชีวิตให้ดีต่อสุขภาพ

รู้หรือไม่ว่า ในสมัยปัจจุบันนี้ การมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการมีสุขภาพร่างกายที่และแข็งแรง เป็นสิ่งที่หลายคนต้องการกันเป็นอย่างมาก

รวมไปจนถึงการใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ ก็เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หลายคนมีความต้องการ

ซึ่งการที่เราจะมีสุขภาพร่างกายที่ดี และแข็งแรง มีสุขภาพจิตใจที่ดีนั้น ปัจจุบันนี้ก็สามารถทำได้หลากหลายวิธมาก ๆ ขอบอกเลยว่าหากเราให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี

ก็อาจจะทำให้เรามีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในสมัยนี้ โรคภัยไข้เจ็บ เป็นสิ่งที่อาจเกิดได้ทุกเมื่อและตลอดเวลา

 

หากใครที่มีความกังวลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพร่างกาย หรือหากใครที่ต้องการหันมาดูแลสุขภาพร่างกาย และอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำแนวทางการใช้ชีวิตง่าย ๆ ที่นอกจากจะทำให้เรามีชีวิตที่ดีแล้วยังมีสุขภาพร่างกายที่ดีไปด้วย ยิ่งเราอายุเริ่มมากขึ้น ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพร่างกาย จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย 

การให้ความสำคัญกับสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นทั้งในส่วนของความสัมพันธ์ ความสะอาด การพูดคุย หรือแม้แต่สิ่งอื่น ๆ รอบตัว

เพราะสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ถือเป็นตัวชี้วัดการใช้ชีวิตของเรา หากเราปฏิบัติไม่ดี ก็อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเราได้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้จักรักษา และถนอมน้ำใจคนรอบข้าง อาจจะทำให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายมากขึ้น แถมยังไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตใจของเราอีกด้วย 

การพักผ่อนให้เพียงพอ สิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีอยู่เสมอคือ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

เพราะหากร่างกายของเราพักผ่อนอย่างเพียงพอ ก็จะได้ซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เรามีร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นกิจวัตรประจำวันที่เราควรจะทำอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง 

การดูแลสุขภาพเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง เนื่องจากสภาพอากาศมักที่จะเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อย ๆ เราจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีอยู่เสมอ เพื่อป้องกันอาการเป็นหวัด หรือโรคร้ายที่อาจมาพร้อมกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ฉะนั้น เพื่อให้คุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น และมีสุขภาพร่างกายที่ดีไปด้วย

เราก็ควรที่จะให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องไหนก็ตาม การสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม การทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมไปถึง การสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะนั่นเอง เพียงแค่นี้เราก็สามารถมีร่างกายที่แข็งแรง และมีคุรภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น 

 

สนับสนุนโดย   เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

แนะนำอาหารที่ควรทานทุกวันอิ่มนานแถมลดน้ำหนักได้

ในสมัยปัจจุบันนี้ การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง การมีรูปร่างที่ดีจากภายในสู่ภายนอก เป็นหนึ่งในสิ่งที่หลาย ๆ คนนั้นต้องการกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิงสำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง

เพราะการที่เรามีรูปร่างที่ดีมีหุ่นที่สวย นอกจากจะช่วยเพิ่มบุคลิกภาพให้กับเราแล้ว ยังทำให้เรานั้นสามารถชีวิตในประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สวมใส่เสื้อผ้าได้สวยมากขึ้นได้

จึงทำให้การลดน้ำหนักในสมัยนี้ เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องของการออกกำลังกาย การเลือกรับประทานอาหาร หรือแม้แต่วิธีอื่น ๆ อีกมากมายก็ได้รับความนิยมเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับสาว ๆ คนไหนที่อยากหันมาเพิ่มความมั่นใจให้ตนเองด้วยการลดน้ำหนัก แต่ไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย หรือหากใครที่ไม่ชอบการออกกำลังกาย

วันนี้เราก็จะมาแนะนำอาหารที่รับรองได้เลยว่าหากเราทานเป็นประจำ นอกจากจะช่วยทำให้เราอิ่มท้องได้นานแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัได้อีกด้วย จะมีอาหารประเภทไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลย 

 

1.แตงโม

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในผลไม้ที่สามารถหาทานได้ง่ายมาก ๆ แถมยังมีราคาที่ไม่แพง สามารถทานได้ตลอด ซึ่ง  hoiana เวียดนาม   รู้หรือไม่ว่าแตงโม เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถลดน้ำหนักได้ดีมาก ๆ แถมยังทำให้น้ำหนักของเราลดลงได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย เพราะในแตงโมนั้นจะอุดมไปด้วยปริมาณน้ำค่อนข้างสูง

ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญ หากเราทานเป็นประจำจะช่วยเพิ่มอิ่มท้องให้เราได้ แถมยังสามารถช่วยลดอาการกระหายน้ำได้ดี หากใครที่อยากลดน้ำหนัก หรือกำลังอยู่ในช่วงของการควบคุมน้ำหนัก การทานแตงโมเป็นประจำช่วยได้อย่างแน่นอน 

2.วอลนัท

แน่นอนว่าอาหารประเภทนี้เป็นตัวช่วยในการลดน้ำหรักได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยควบคุมความหิวของเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หากใครที่อยากลดน้ำหนัก อยากมีรูปร่างที่สวย การทานวอลนัทเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม แถมยังสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยควบคุมพฤติกรรมการกินของเราให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมได้อีกด้วย 

3.เห็ด

รู้หรือไม่ว่า เห็ดเป็นหนึ่งในอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเยอะมาก ๆ แถมยังมีแคลอรีที่ต่ำ มีไขมันดี และยังมีวิตามินอีกด้วย หากสาว ๆ คนไหนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือยากที่จะสร้างรูปร่างที่ดีมห้แก่ตนเอง การนำเห็ดมาประกอบอาหาร และทานเป็นประจำ นอกจากจะทำให้เราอิ่มท้องได้นานแล้ว ยังเป็นอาหารที่เหมาะสมสำหรับคนที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักอีกด้วย

จัดการเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องครัวบางประเภท หลังน้ำท่วม

เครื่องครัว เครื่องใช้ในครัว เป็นสิ่งที่จะต้องเน้นย้ำเป็นพิเศษเนื่องจากว่าสำคัญกับการกินการอยู่ โดยพวกเครื่องครัวที่เป็นเครื่องแก้ว, เครื่องเคลือบ, พลาสติก, เมลามีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้วยน้ำรวมทั้งถ้วยจานใส่ของกิน ให้ผสมคลอรีนเข้ากับน้ำร้อน

ใส่ลงในภาชนะแล้วนำข้าวของพวกนั้นแช่เอาไว้อย่างต่ำประมาณสิบนาทีเพื่อฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ต่อจากนั้นนำขึ้นจากน้ำไปตากให้แห้งหนึ่งรอบ ก่อนนำกลับมาชำระล้างด้วยน้ำยาที่เอาไว้สำหรับล้างจานอีกทีหนึ่ง ที่สำคัญอย่าใช้ผ้าถูให้แห้ง แต่ว่าควรจะทิ้งให้ถ้วยชามพวกนั้นแห้งเอง

ส่วนเครื่องครัวที่เป็นเครื่องเงิน, เครื่องใช้ประเภทโลหะต่าง ๆ ไม่สมควรใช้คลอรีนเนื่องด้วยบางทีอาจทำปฏิกิริยากับโลหะหลาย ๆ จำพวกจะก่อให้สีแปรไป

ชี้แนะให้นำไปต้มในน้ำเดือดอย่างต่ำประมาณสิบนาทีเพื่อทำลายเชื้อ แล้วก็ใช้น้ำยาที่ใช้เพื่อการทำความสะอาดซึ่งสามารถฆ่าเชื้อโรคได้แช่ไว้ ที่สำคัญน้ำยาที่ใช้จำเป็นที่จะต้องปลอดภัยต่อคน ตัวอย่างเช่น ห้ามใช้โซดาไฟ ในกรณีที่เป็นเครื่องครัวขอชี้

แนะให้ใช้น้ำยาที่เอาไว้ล้างจานที่มีส่วนผสมของสารชีวภาพโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี ที่สามารถฆ่าเชื้อโรคและไม่เป็นโทษ แล้วเอามาชำระล้างอีกทีภายหลังการต้มในน้ำร้อน

เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ภายหลังจากการประสบอุทกภัย

เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ จะต้องได้รับการตรวจตราวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ก่อนจะนำกลับไปใช้งาน มิฉะนั้นบางทีอาจกำเนิดกระแสไฟฟ้าชอร์ตเอาได้ หรือบางทีอาจก่อความทรุดโทรมให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ แนวทางการทำความสะอาด การจัดการกับรอยคราบเลอะเทอะ

และก็การกำจัดกลิ่นของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ อย่างเช่น วิทยุ ทีวี เครื่องซักผ้า และอื่น ๆ อีกมากมาย พวกเราบางทีอาจชำระล้างด้านนอกตัวเครื่องได้เอง แม้กระนั้นจึงควรให้ช่างมาตรวจเช็กมองภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการต่อสายกราวด์เพื่อคุ้มครองป้องกันไฟดูด ไฟชอร์ต

เมื่อถูกอุทกภัยไปแล้วอาจมีสิ่งสกปรกหรือโคลนเข้าไปตันอาจส่งผลให้สายดินไม่สามารถที่จะปฏิบัติงานได้ ควรให้ช่างมาตรวจเช็กก่อนที่จะมีการใช้งาน มิฉะนั้นบางทีอาจทำให้เป็นอันตรายได้

นอกจากนี้ ยังมีข้าวของจิปาถะอื่น ๆ ที่บางทีอาจจะต้องชำระล้างด้วย ตัวอย่างเช่น สิ่งของเครื่องใช้ที่ทำมาจากผ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้าจำเป็นต้องรีบเอามาซักและก็ทำความสะอาดทำลายเชื้อโดยด่วนก่อนจะขึ้นรา ให้ซักด้วยน้ำร้อน แล้วผึ่งแดดให้แห้ง

และนี่คือเป็นเพียงแค่ความรู้เล็กน้อย ๆ ที่นำมาฝากกันวันนี้ หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนที่พึ่งผ่านพ้นวิกฤตน้ำท่วม และขอเอาใจช่วยให้ผ่านครั้งนี้ไปได้

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ฮอยอาน่า

แนะนำการออกกำลังกายในช่วงหน้าร้อนให้ดีต่อสุขภาพ

 

อย่างที่หลายคนทราบว่าการออกกำลังกายนั้น   แนะนำการออกกำลังกาย    เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของคนเราเป็นอย่างมาก เพราะการออกกำลังกายบางรูปแบบสามารถช่วยส่งเสริมการมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงได้ ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิต และทำให้เรานั้นมีร่างกายที่แข็งแรงและไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ง่าย

แต่เนื่องด้วยปัญหาที่คนส่วนใหญ่มักที่ จะพบเจอกันอยู่บ่อยบ่อยเลยก็คือ ปัญหาการออกกำลังกายในช่วงหน้าร้อน

ยิ่งอากาศร้อนร้อนหากเราต้องออกกำลังกายอาจจะทำให้บางคนนั้นเกิดอาการเป็นลม หรือเกิดอาการวูบได้

ฮอยอาน่า   ฉะนั้น การออกกำลังกายในช่วงหน้าร้อนจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม

ซึ่งเราควรที่จะให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายให้ดี เพราะกีฬาบางประเภทเราจะต้องใช้แรงของร่างกายเยอะจึงทำให้บางครั้งเหงื่อของเรา

อาจออกมาเยอะมากๆ และอาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆขึ้นได้ง่ายนั่นเอง แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากใครที่อยากออกกำลังกายในช่วงหน้าร้อนให้ดีต่อสุขภาพ ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปเพราะวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีที่ง่ายที่จะช่วยให้คุณนั้นออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงหน้าร้อนก็ตาม จะมีวิธีไหนบ้างไปดูกันเลย

1.การจิบน้ำบ่อยบ่อย วิธีนี้ถือเป็นยังไงวิธีที่จะช่วยลดอาการวูบหรืออาการเป็นลมได้ ยิ่งถ้าใครอยากออกกำลังกายในช่วงหน้าร้อน การที่เรามันจิบน้ำบ่อยบ่อยอาจจะทำให้เรานั้นไม่รู้สึกเหนื่อยมากจนเกินไป และช่วยให้เราสามารถเล่นกีฬาได้ยาวนานมากขึ้น ขอบอกเลยว่าวิธีนี้นอกจากจะทำให้เรารู้สึกไม่กระหายน้ำแล้วยังเป็นการออกกำลังกายที่ดีต่อสุขภาพของเราอีกด้วย

2.ไม่ควรออกกำลังกายต่อเนื่องเป็นเวลานาน แน่นอนว่าการที่เราออกกำลังกายต่อเนื่องกันเป็นเวลานานหรือช่วงหน้าร้อน จะส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ฉะนั้น ทางที่ดีเราควรที่จะออกกำลังกายและหยุดพักสลับกันไปมาเพื่อให้ร่างกายของเราไม่ถูกใช้งานหนักจนเกินไป ยิ่งถ้าเป็นอากาศร้อนร้อนเรายิ่งต้องพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายของเราแข็งแรงและออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย รู้หรือไม่ว่าการที่เราเลือกเสื้อผ้าที่ใส่สบาย เสื้อผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดี จะสามารถทำให้เรานั้นออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพและนานได้มากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยให้เราไม่รู้สึกร้อนมากจนเกินไปในระหว่างการออกกำลังกาย ยิ่งถ้าเป็นในช่วงหน้าร้อนการเลือกสวมใส่เสื้อผ้าในการออกกำลังกายจึงเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม ยิ่งถ้าใครอยากออกกำลังกายดีต่อสุขภาพจึงควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากๆ         

เลือกทำเล และสร้างรั้ว ช่วยลดเสียงรบกวน

เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างมาก การผลิตบ้านที่เสียงเข้ามาได้น้อย เพื่อลดสิ่งรบกวนจากข้างนอกนับว่าเป็นบ้านในฝันของคนอีกหลายคน หวานใจเราได้รับความสงบเงียบ โดยการผลิตบ้านเก็บเสียงนั้น ทำเป็นมากมายหลากหลายวิธี เมื่อก่อนจะเริ่มดีไซน์ก่อสร้างบ้านเก็บเสียง

เลือกทำเล และสร้างรั้ว เจ้าของบ้านควรจะทราบซะก่อนว่าเสียงดังรบกวนเจ้าปัญหานั้นมีต้นเหตุจากสาเหตุที่เกิดขึ้นนอกบ้านหรือในบ้าน เพื่อจะได้จัดการกับปัญหาแล้วก็จัดแจงได้ถูกจุด

แล้วอะไรเป็น สิ่งที่ทำให้เกิดเสียงดังรบกวนเจ้าปัญหา?

  1. เลือกสถานที่แล้วก็จุดที่อยากได้ก่อสร้างบ้าน
  2. สร้างแนวรั้วซึมซับเสียง

แล้วอะไรเป็น ต้นเหตุของเสียงดังรบกวนเจ้าปัญหา?

ต้นตอหรือต้นเหตุของเสียงดังรบกวนแบ่งได้เป็น 2 แหล่งหมายถึงเสียงดังรบกวนจากปัจจัยภายนอก อย่างเช่น เสียงรถยนต์วิ่ง เสียงแตร สถานที่หรือสิ่งก่อสร้างบริเวณรอบ ๆ อย่าง สถานศึกษา วัด ตลาด ฯลฯ เสียงดังรบกวนจากปัจจัยภายใน เป็นต้นว่า เสียงที่ส่งผ่านผนังได้ เสียงที่ลอดผ่านจากรูต่าง ๆ ช่องโหว่ตามคาน จุดที่เป็นรอยต่อต่าง ๆ

ซึ่งถ้าหากพวกเราทราบที่มาที่ไปของเสียงรวมทั้งจะสามารถไขปัญหาได้ถูกจุดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดย  เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน    วันนี้ ต้องการเสนอวิธีดี ๆ สำหรับในการก่อสร้างบ้านเก็บเสียง ที่พักได้เลยว่าจัดแจงเสียงดังรบกวนอีกทั้งในรวมทั้งนอกบ้านได้

  1. เลือกทำเลแล้วก็จุดที่ปรารถนาก่อสร้างบ้าน

ถ้าหากเป็นได้เสนอแนะให้เลือกก่อสร้างบ้านในจุดที่ ไกลห่างจาก ชุมชน ตลาด สถานที่เรียน วัด ถนนใหญ่ เพราะเหตุว่าเป็นแหล่งที่นำไปสู่เสียงดังรบกวนที่ไม่อาจควบคุมได้ ในกรณีที่หลีกเลี่ยงมิได้ ชี้แนะให้เลือกวางตำแหน่งของตัวบ้านให้เหลืออยู่พื้นที่ว่างรอบ ๆ บ้านเอาไว้ขั้นต่ำ 30 % ของขนาดพื้นที่ทั้งปวง ควรจะจัดตำแหน่งของตัวบ้าน

โดยตั้งให้ห่างจากแนวรั้วหรือต้นกำเนิดเสียง ช่วยทำให้ระดับเสียงก่อกวนจากข้างนอกจะน้อยลงสูงถึง 6 เดซิเบล ในทุก ๆ ระยะห่างที่มากขึ้นเป็นสองเท่าจากจุดที่เป็นบ่อเกิดเสียง

2.สร้างแนวรั้วซับเสียง

รั้วบ้านของเรานั้น เปรียบเสมือนแนวกันแล้ว เพื่อระบุขนาดของที่ดินรวมทั้งคุ้มครองให้ปลอดภัยจากข้างนอกแล้วนั้น ยังสามารถดีไซน์ให้มีคุณลักษณะสำหรับในการซึมซับเสียงข้างนอกได้อีกด้วย ด้วยการผลิตรั้วแบบกำแพงปูนฉาบ นอกเหนือจากการที่จะแข็งแรง ยังช่วยซึมซับเสียงด้านนอกได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งความสูงรวมทั้งระยะห่างของรั้วกับตัวบ้านก็ส่งผลต่อสมรรถนะ

สำหรับในการซับเสียงด้านนอกเช่นเดียวกัน โดยรั้วควรจะสูงจากบ่อเกิดของเสียง 3 เท่าก็เลยจะเป็นระดับที่พอดี อย่างเช่นถ้าเกิดต้นกำเนิดเสียงเป็น ถนนหนทางที่มีรถยนต์วิ่งตลอดระยะเวลา ควรจะก่อกำแพงสูงจากผิวถนนอย่างต่ำ 3 เมตร 

ออกกำลังกายตอนเช้าอย่างไรให้ปลอดภัย 

  ออกกำลังกายตอนเช้า สำหรับในบทความนี้เราจะมาพูดถึงการออกกำลังกายในช่วงเช้า ซึ่ง การออกกำลังกายในช่วงเช้านั้นโอกาสที่เราจะได้รับบาดเจ็บนั้นค่อนข้างมีสูงเนื่องจากว่าเราเพิ่งตื่นนอนและยังคงงัวเงียร่างกายยังไม่ตื่นตัวเต็มที่ดีดังนั้นถ้าหากว่าเราออกกำลังกายแบบไม่ถูกวิธีก็อาจจะทำให้ได้รับบาดเจ็บขณะที่มีการออกกำลังกายได้ 

ดังนั้นหากใครที่มีแนวความคิดว่าอยากจะออกกำลังกายในช่วงเช้าเพราะในช่วงเย็นนั้นมีธุระเยอะแยะมากมายและไม่สะดวกที่จะออกกำลังกายในตอนเย็นก่อนอื่นเลยหลังจากตื่นขึ้นมาควรที่จะต้องมีการล้างหน้าและแปรงฟันเพื่อให้ร่างกายนั้นตื่นตัวหลังจากนั้นก็ทำการอบอุ่นร่างกายด้วยการ warm up เสียก่อนเพื่อที่จะให้ร่างกายของเรานั้นรับรู้ว่าในขณะนี้มีความพร้อมที่จะเคลื่อนไหวร่างกายแล้วรวมไปถึงเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับปอดและหัวใจที่จะต้องเริ่มทำงานหนักขึ้นซึ่งหากใครคิดจะออกกำลังกายตอนเช้าควรจะต้องทำแบบนี้เป็นประจำทุกเช้าเพื่อให้ร่างกายเกิดความเคยชิน

 

Mulher fazendo a posição correta da prancha ou postura. exercício de ...

 

สำหรับกิจกรรมหรือการออกกำลังกายในช่วงเช้ามีให้เลือกหลากหลายรูปแบบด้วยกันเช่นบางคนอาจจะเลือกว่ายน้ำในตอนเช้าหรือแม้แต่บางคนอาจจะเลือกการออกกำลังกายด้วยการเต้นแอโรบิคหรือบางคนอาจจะเลือกการออกกำลังกายด้วยกันทำคาร์ดิโอหรือปั่นจักรยานก็ได้โดยระยะเวลาในการออกกำลังกายในตอนเช้าของเรานั้นควรจะออกกำลังกายติดต่อกันประมาณ 10-30 นาที

ซึ่งเราควรจะต้องมีการออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 ครั้งหรือถ้าหากใครออกกำลังกายได้เพียงแค่วันละ 10 นาทีก็สามารถออกกำลังกายได้ทุกวันซึ่งการออกกำลังกายในช่วงเช้านี้นอกจากจะทำให้เรารู้สึกตื่นตัวมีความพร้อมที่จะต้องไปต่อสู้กับงานในตอนเช้าแล้วยังทำให้เราสามารถเผาผลาญไขมันและทำให้เรามีหุ่นสวยและสุขภาพดีได้อีกด้วย 

สำหรับใครที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนเลยและเริ่มจะมีความคิดที่จะออกกำลังกายในช่วงเช้าแนะนำว่าควรจะเริ่มจากระดับช้าๆและการออกกำลังกายแบบง่ายๆไปก่อนซึ่งอาจจะเริ่มออกกำลังกายเพียงแค่วันละ 10 นาทีเท่านั้นและเมื่อร่างกายเกิดความคุ้นชินก็ค่อยเพิ่มระยะเวลาในการออกกำลังกายให้มากขึ้นได้แต่ก็ต้องควบคุมเรื่องของอัตราการเต้นของหัวใจอย่าออกกำลังกายหักโหมมากจนเกินไปเพราะหัวใจจะทำงานหนักและอาจจะเป็นอันตรายได้นั่นเอง 

อย่างไรก็ตามการเลือกออกกำลังกายด้วยวิธีในนั้นขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของตนเองด้วยถ้าหากเราเป็นคนที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงมากนักก็ควรเลือกออกกำลังกายเบาๆแต่ถ้าใครมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและต้องการที่จะออกกำลังกายเพื่อให้หุ่นสวยเผาผลาญไขมันได้อย่างเต็มที่ก็ควรจะออกกำลังกายแบบต่อเนื่องวันละ 30 นาทีรับรองได้เลยว่าคุณจะต้องทั้งหุ่นสวยและสุขภาพดีอย่างแน่นอน

 

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ